นางสายหยุด สีทองอายุ 39 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายสงกรานต์ สีทอง เด็กนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านเขามะกา ตำบลศาลาลำดวน อำเภอเมืองสระแก้ว ที่เสียชีวิตจากการนอนรอหมอผ่าตัดนานกว่า 10 ชั่วโมง จนกระทั่งน้องสงกรานต์ เกิดภาวะช็อคเนื่องจากไส้ติ่งแตกก่อนจะเสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ได้เข้าพบกับทีมผู้บริหารโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว โดยมีแพทย์หญิง กนกพร ทองเลื่อน รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ นายแพทย์วิทยา หอมฉุน รองผู้อำนวยการด้านปฐมภูมิ พร้อมด้วยนายแพทย์ประชา สดแสงเทียน ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว โดยได้เข้าพูดคุยกันที่ห้องประชุมราชพฤกษ์ ชั้น 3
ซึ่งการพูดคุยในครั้งนี้ทางคณะผู้บริหารโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพภายในห้องประชุม ขณะมีการพูดคุยกับครอบครัวเด็กที่เสียชีวิต ก่อนที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชลว่า จากการพูดคุยกับครอบครัวเด็กในเบื้องต้น ทางครอบครัวเด็กยังติดใจในกระบวนการรักษาของโรงพยาบาล ก่อนที่โรงพยาบาลจะชี้แจงไปว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีการระบุว่า ใครผิดใครถูก โดยทางโรงพยาบาลยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดในกระบวนการทำงาน และจะนำข้อมูลในวันนี้ ไปปรับปรุงระบบการทำงานเพื่อลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นซ้ำอีก
โดยทางโรงพยาบาลจะมีการจ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวของเด็กเป็นเงิน 400,000 บาท ส่วนประเด็นที่มีการพูดถึงกันอย่างมาก ก็คือ ไม่มีหมอผ่าตัดเข้าเวรในช่วงดึกนั้น คณะผู้บริหารโรงพยาบาล บอกว่า ในวันเกิดเหตุ ทางหมอศัลยกรรม ดูแลคนไข้ด้วยตัวเอง แต่อาจจะติดอยู่ที่กระบวนการขั้นตอนที่ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าเด็กจะได้เข้าห้องผ่าตัด ข้อบกพร่องตรงนี้จะนำไปแก้ไข ปรับปรุงให้ดีขึ้น
ส่วนทางด้านนางสายหยุด สีทอง แม่น้องสงกรานต์ที่เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวและทนายความ ยอมรับว่า ได้ฟังการชี้แจงจากทางโรงพยาบาลแล้ว ถือว่าพอใจในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะได้รับเงินเยียวยามาจำนวนหนึ่ง แต่ตัวแม่เองไม่ได้พอใจในเรื่องของจำนวนเงินที่เยียวยา แต่อยากให้เคสของน้องสงกรานต์เกิดขึ้นเป็นเคสสุดท้าย ไม่ใช่เคสกรณีศึกษา และอยากให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วให้ความสนใจกับคนป้วยที่เข้ามารับการักษาให้มากกว่านี้
Cr: เพลิน พิมพ์อารัญ สวท.สระแก้ว