จันทบุรี ยืนยันไม่มีชาวไนจีเรียมาค้าพลอยในจันท์

รูปข่าว : ไขข้อข้องใจ วางแผน "แหกคุก" มีความผิดหรือไม่

เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมพูดคุยกับชาวผิวสีในจังหวัดจันทบุรี เพื่อขอเป็นแนวร่วมเฝ้าระวัง และป้องกันโรคฝีดาษลิง หลังผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกของไทยหลบหนีการเข้ารับการรักษา  

พันตำรวจเอกเตชิต กุลกนิษฐรากร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร เมืองจันทบุรี พร้อมด้วยร้อยตำรวจเอกนเรศ นาลา รองสารวัตรตำรวจ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายศุภกร จุฑาจันทร์ นักวิชาการสาธารณสุข หัวหน้างานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดจันทบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ พบปะกลุ่มชาวผิวสี ที่อาศัยภายในโรงแรมนิวออลีน ตำบลวัดใหม่ อำเภอ จังหวัดจันทบุรี ที่พักอาศัยอยู่กันประมาณ 50 ครอบครัว โดยมีมิสเตอร์ ซีสเซ่ โมฮัมเหม็ด ผู้ประสานงานชาวผิวสี ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง ณ จังหวัดภูเก็ต และคาดว่าหลบหนีออกนอกประเทศไทยไปแล้ว

โดยการเดินทาทงทำความเข้าใจในครั้งนี้เพื่อให้เกิดการเฝ้าระวัง กลุ่มชาวแอฟริกาที่เดินททงเข้ามาพื้นที่ และการดูแลสังเกตอาการ การป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง ที่เป็นโรคอุบัติใหม่ที่ต้องเฝ้าระวัง และรับทราบแนวทางการสังเกตอาการ อย่างมีความรู้ มีความตระหนัก แต่ไม่ตระหนก

ด้านนายซีสเซ่ โมฮัมเหม็ด ชาวกินี ยืนยันว่า ชาวผิวสีที่เดินทาง เข้าพักอาศัยในจันทบุรี ต้องแจ้งตนและแจ้งทางตำรวจตรวจ คนเข้าเมือง แจ้งพื้นที่พักอาศัย เป็นหลักแหล่ง ยืนยันว่าชาวผิวสีที่พักอาศัยในจันทบุรี มีอยู่จำนวน ประมาณ 380-400 ราย กระจายตัวพักอาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมือง จันทบุรี ทั้งเขตเทศบาลเมือง ชุมชนมัสยิดตำบลแสลง ตำบลจันทนิมิต และมีการรวมกลุ่มทำละหมาด ในมัสยิดทุกสัปดาห์ ส่วนใหญ่เป็นชาวกินี ไอเวอรี่โคด โมซัมบิก ที่เข้ามาอาศัย ค้าขายพลอยอยู่ในจันทบุรีเป็นเวลายาวนาน ไม่ได้เดินทางเข้าออกประเทศ แต่ในส่วนของคนที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือเดินทางมา ด้วยรถโดยสารสาธารณะ และไป-กลับ ไม่เกิน 24 ชั่วโมง จะไม่สามารถ ตรวจสอบได้

ซึ่งต่อไปจะได้มีการเฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์ให้มีการลงทะเบียน ในการเดินทางมาพื้นที่จันทบุรี ลงทะเบียนระยะเวลาการเข้า-ออก นอกจากนี้ ยังฝากถึงกลุ่มคนต่างชาติ ชาวผิวสี ที่เข้ามาค้าขายทำงานในจันทบุรี ขอให้ปฏิบัติตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด การกระทำความผิด โดยเฉพาะเรื่องการอยู่เกินกำหนด นอกจากผิดกฎหมาย ต้องเสียค่าปรับ ถูกจับ และอาจไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าไทย อีกเลย การกระทำความผิดของคน กลุ่มเล็กๆเพียงไม่กี่คน อาจจะส่งผลกระทบกับคนที่อยู่อย่างถูกต้อง ทำมาค้าขายสุจริตได้

ด้านพันตำรวจเอกเตชิต กุลกนิษฐรากร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร เมืองจันทบุรี เน้นย้ำในเรื่องการสื่อสารของกลุ่มชาวผิวสี กับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้เกิดเครือข่ายในการเฝ้าระวัง ชาวต่างชาติ กลุ่มชาวผิวสีเข้าพื้นที่ เพื่อให้เกิดการป้องกันโรคอย่างเป็นรูปธรรม แม้จะทราบข่าวว่า อินเด็กซ์เคส คือ ชาวไนจีเรีย ที่ติดเชื้อหลบหนีออกต่างประเทศไปแล้ว กับ คอนแท็กเคสที่เป็น หญิงไม่ทราบสัญชาติ สัมผัสใกล้ชิดในพื้นที่ป่าตอง จังหวังภูเก็ต ยังหาตัวไม่พบ ทุกหน่วยงานจำเป็นต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะการสร้างความรู้ ความเข้าใจของการสังเกตอาการเบื้องต้นของโรค ที่อาจจะเข้าข่าย โรคที่คล้ายคลึง อย่าง มือเท้า-ปาก อีสุกอีใส แต่ฝีดาษลิงเป็นโรคติดเชื้อไวรัส มีตุ่มหนอง ต่อมน้ำเหลืองบวม ที่ผู้ป่วยจะต้องทรมานกับโรค แม้จะมีแนวทางรักษาตามอาการ แต่แนวทางการป้องกันสามารถทำได้ หากประชาชนมีความเข้าใจกับโรค รวมทั้งเป็นการลดผลกระทบในกระแสสังคม ของคนจันทบุรี ที่ต้องอยู่ร่วมกันกับชาวต่างชาติ หลากหลายเชื้อชาติ

#NBTจันทบุรี #NBTภาคกลาง #ข่าวช่อง11

แท็ก