ที่ซอยสุขทุกวัน 1 ก ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ได้เกิดน้ำไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน ประมาณ 13 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ออกมาจอดในพื้นที่ที่น้ำยังไม่ท่วมถึง แม้ว่าช่วงที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ปริมาณน้ำที่เข้าท่วมจะลดลงบ้างแล้วก็ตาม แต่ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะจังหวัดจันทบุรีได้เกิดน้ำทะเลหนุน และคาดว่าน้ำทะเลจะลดลงในช่วงเวลา 19.00 น. ของวันนี้ หากเกิดฝนตกซ้ำลงมาอีกก็จะทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นและยากแก่การระบาย
นางสาวเพ็ญศรี ธรรมศร ชาวบ้านในซอย ให้ข้อมูลว่า น้ำเริ่มท่วมชุมชนราวห้วงเวลา 03.00-04.00 น. และเมื่อราว 06.00 น. น้ำเริ่มทรงตัวเพราะฝนเริ่มหยุดตก ตอนนี้(11.00 น.) น้ำลดลงไปได้ประมาณ 5 ซม. แล้ว ชุมชนแห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ หากฝนตกหนักน้ำจากคลองน้ำใสจะล้นท่วม เมื่อปีที่แล้ว (2564) น้ำท่วมสูงราว 2 เมตร สิ่งที่เป็นห่วง คือ หากฝนตกติดต่อกันแบบไม่หยุด จะทำให้เกิดสถานการณ์แบบนี้อีก และหากน้ำทะเลหนุน ยิ่งจะทำให้น้ำลดระดับลงช้า ตอนนี้ชาวบ้าน เริ่มขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงแล้ว เพราะไม่มั่นใจว่าสถานการณ์น้ำจะเหมือนปี 2564 หรือไม่
ขณะที่พื้นที่ใกล้เคียง ก็ยังคงมีน้ำท่วมผิวการจราจรเช่นเดียวกัน อย่างเช่น ซอยข้างตลาดเจริญสุขตำบลท่าช้าง ที่ระดับน้ำ ยังคงท่วมขังผิวจราจรอยู่ประมาณ 30 เซนติเมตร นางภาสินี สุวรรณเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยหลังจากลงพื้นที่ว่า สาเหตุที่ทำให้น้ำฝนสะสมในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของตัวเมืองจันทบุรี เกิดน้ำท่วมขังรอระบายในครั้งนี้ เป็นเพราะปริมาณฝนที่ตกติดต่อกันและเกิดน้ำทะเลหนุน หากน้ำทะเลไม่หนุน น้ำในคลองน้ำใสจะระบายได้อย่างรวดเร็ว เพราะก่อนหน้านี้นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ดำเนินการพัฒนาคลองน้ำใส ให้ปราศจากสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำในคลองน้ำใสไหลลงสู่ทะเลได้ด้วยความรวดเร็ว คาดว่าหากน้ำทะเลลงแล้วไม่มีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มจะทำให้พื้นที่ต่างๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติ