พล.ต.ต ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมตามโครงการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนประจำกาย เพื่อปรับใช้กับชีวิตประจำวันเมื่อเกิดการเผชิญเหตุในการปฏิบัติหน้าที่ ให้กับข้าราชการตำรวจ กลุ่มงานเจ้าหน้าที่สายตรวจ จำนวน 30 นาย จากทุกสถานี ตำรวจในจังหวัดจันทบุรี ณ สนามยิงปืนค่ายตากสิน อำเภอเมืองจันทบุรี โดยมี ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดจันทบุรี พร้อมทีมวิทยากรยิงปืน ทีมพยัคฆ์บูรพาจันทบุรี จากชมรมยิงปืนรณยุทธจังหวัดจันทบุรี ร่วมเป็นพี่เลี้ยงในการฝึกอบรม
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเรียนรู้การใช้อาวุธปืน sig sauer รุ่น M18E Carry ขนาด 9 มม.(มิลลิเมตร) พร้อมติด อุปกรณ์ช่วยเล็ง หรือที่เรียกว่าปืนดอท ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการต่อสู้ เพื่อหวังผลในการยับยั้งคนร้ายในสถานการณ์ ที่จำเป็นต้องล็อคเป้าหมายชัดเจน ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ปัญหาอาชญากรรมในสังคมทวีความรุนแรงและซับซ้อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นที่ต้องฝึกการใช้อาวุธปืนพก และสร้างเสริมความชำนาญ แก้ไขเหตุติดขัด ทั้งการยิงปืนแบบประณีต และเทคนิคการใช้ปืนพก ระบบยิงต่อสู้ ภายใต้สภาวะความกดดัน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีความมั่นใจในการใช้อาวุธปืนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ในการอบรมครั้งนี้เจ้าหน้าที่สายตรวจจะได้เรียนรู้ ทั้งหลักพื้นฐานในการยิงปืน และเทคนิควิธีการยิงเพื่อความแม่นยำ โดยการใช้กล้องช่วยเล็ง (Red Dot) การยิงในจุดสำคัญเพื่อหยุดคนร้าย ยกตัวอย่างเช่น ศีรษะ หน้าอก ข้อศอก มือ เพื่อหวังผลสัมฤทธิ์ภายใต้ ข้อจำกัดของจำนวนกระสุนปืน โดยในการอบรม มีการฝึกทั้งแบบเป้านิ่ง และเป้าเคลื่อนไหว
ด้านดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดจันทบุรี กล่าวถึงการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนชนิดติดอุปกรณ์ช่วยเล็งนี้ เป็นการช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพให้การใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ประกอบกับทักษะพื้นฐานการยิงปืนของเจ้าหน้าที่สายตรวจ มีความชำนาญ อยู่ก่อนแล้วกับปืนรุ่นเดิมแต่เป็นชนิดศูนย์เปิด ซึ่งการรับมอบปืนมาใหม่ จึงจำเป็นต้องฝึกการใช้ให้เกิดความชำนาญ สำหรับอาวุธปืนชนิดติดอุปกรณ์ ช่วยเล็งนี้ จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ ปกป้องชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดจันทบุรี ยังได้ยกตัวอย่าง กรณีเหตุปล้นร้านทองที่จังหวัดตาก ยอมรับว่าเจ้าของร้านทองผู้ประสบเหตุ ทำการตอบโต้ตามหลักยุทธวิธี และปฏิบัติตามหลักพื้นฐานการใช้อาวุธปืน ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าหากมองในมุมกลับกัน ขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนก่อเหตุเพื่อหวังผลทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เชื่อว่าในสถานการณ์ ลักษณะนี้ สำหรับผู้ที่เรียนรู้การใช้อาวุธปืน และมีอาวุธปืนพร้อมใช้ในการ ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน คงจะป้องกันตัวและตอบโต้ในลักษณะที่รุนแรงกว่า เจ้าของร้านทองท่านนี้ทำอย่างแน่นอน
